The Knowledge Provider | Advanced Research Group

Back

จ่ายค่าโฆษณาให้ Facebook ต้องยื่นภาษีอย่างไร?

จ่ายค่าโฆษณาให้ Facebook ต้องยื่นภาษีอย่างไร?

11-09-2018

            สำหรับการโฆษณาบน Facebook เป็นช่องทางหนึ่งในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ธุรกิจ กิจกรรม และแคมเปญต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก

            เนื่องจากการโฆษณาด้วยวิธีนี้เป็นการโฆษณาที่มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ในราคาที่สามารถจับต้องได้ และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า และในปัจจุบันประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่คนไทยทำบนออนไลน์คือ การติดต่อสื่อสาร รับชมความบันเทิง และซื้อสินค้าออนไลน์ ดังนั้นทุกธุรกิจจึงไม่รอช้าที่ทำโฆษณาผ่าน Facebook ซึ่งหลังจากจ่ายเงินไปแล้ว หลาย ๆ คนมีข้อข้องใจว่าแล้วเงินที่เราจ่ายเป็นค่าโฆษณามันคือรายจ่ายที่เราสามารถนำไปยื่นภาษีได้หรือไม่ วันนี้คำตอบอยู่ที่นี่แล้ว

           หากคุณเป็นคนหนึ่งที่จ่ายโฆษณาบน Facebook ต้องการนำรายจ่ายไปยื่นภาษี ขั้นตอนแรกที่ต้องทำคือ “การหาหลักฐานการจ่ายเงินค่าโฆษณา Facebook” โดยต้องมีใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบซึ่งสามารถขอได้จาก Facebook และต้องระบุชื่อบริษัทด้วย

ค่าโฆษณา Facebook สามารถแยกตามประเภทภาษีที่ต้องยื่นภาษีได้ 2  ประเภทด้วยกัน

  • ภาษีเงินได้

          สำหรับภาษีเงินได้นิติบุคคล : สามารถนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีของธุรกิจได้ เนื่องจากเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 โดยค่าโฆษณานั้นต้องเกี่ยวข้องกับธุรกิจจริง ๆ ซึ่งต้องมีหลักฐานการจ่ายเงินที่ระบุรายละเอียดครบถ้วนในชื่อของบริษัทจาก Facebook โดยธุรกิจไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

          สำหรับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา : หากต้องการนำค่าใช้จ่ายโฆษณา Facebook มาเป็นต้นทุนต้องดูว่า คุณเลือกหักค่าใช้จ่ายแบบใด โดยมี 2 แบบด้วยกัน

  1. แบบเหมา : ค่าใช้จ่ายทุก ๆ อย่างจะถูกรวมในอัตราเหมา ค่าใช้จ่ายที่สามารถหักได้จะรวมอยู่ในนั้นหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่สามารถนำรายจ่ายค่าโฆษณามาหักภาษีได้อีก
  2. แบบตามความเป็นจริง : ในกรณีนี้สามารถนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงมาหักเป็นต้นทุนได้ ซึ่งหลักฐานต้องมีการระบุชัดเจนว่าเพื่องานอะไร จ่ายไปเท่าไร
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT

          ตามกฎหมายมาตรา 77/2 การขายสินค้า หรือใช้บริการและทำกิจการในราชอาณาจักร บังคับให้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย รวมถึงตามมาตรา 83/6 ในกรณีที่เราใช้บริการจากต่างประเทศในราชอาณาจักร ผู้จ่ายเงิน(ตัวเรา) ต้องนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย เพราะ Facebook ไม่ได้มีการจัดตั้งสำนักงานในไทยและในค่าโฆษณาไม่ได้รวม VAT ดังนั้นเราจึงต้องเสีย VAT เองโดยคิดจากยอดปกติ 7% ของค่าโฆษณาที่เราได้จ่ายไป ตัวอย่างเช่น ค่าโฆษณา 20,000 บาท เราต้องจ่ายค่า VAT เป็นจำนวนเงิน 1,400 บาท นอกจากนี้ธุรกิจจะต้องนำส่งภาษีฯให้กับกรมสรรพากรด้วย ซึ่งใช้แบบฟอร์ม ภ.พ. 36 ในการยื่นภาษีฯ ภายใน 7 วันนับตั้งแต่สิ้นเดือนที่มีการจ่ายเงินค่าโฆษณา

 

         ถ้าหากถามว่า เราไม่ยื่นหรือเสียภาษีมูลค่าเพิ่มได้หรือไม่ เราขอบอกว่าอย่าเสี่ยง เพราะหากกรมสรรพากรเข้ามาตรวจสอบคุณต้องเสียภาษีเพิ่ม ในอัตรา 1.5% ต่อเดือนอีกด้วย ดังนั้นดำเนินการเสียภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมายกันจะถือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการทำธุรกิจ

 


ข้อความที่เกี่ยวข้องภาษาไทย
เอเจนซีโฆษณาและประชาสัมพันธ์,การโฆษณาและประชาสัมพันธ์ครบวงจร,เอเจนซีโฆษณา,โฆษณาและประชาสัมพันธ์,การบริหารจัดการสื่อโฆษณา,บริการการตลาด ประชาสัมพันธ์, ภาษี
ข้อความที่เกี่ยวข้องภาษาอังกฤษ
advertising & PR agency,Advertising Design,Adverting Management,Packaging Design,Integrated Marketing,Proactive Marketing,Graphic Design,Booth Exhibition,Booth Display
-------------------------------------
AR GROUP : ผู้ให้บริการความรู้

บอกต่อ : 
The Knowledge Provider (AR Group)

Back